จากคราวที่แล้วให้พิจารณาหนึ่งในรูปแบบของการออมเงิน ชนิดที่เรียกว่ารวมเงินกันเพื่อให้ (เพื่อน)ยืม หรือ การเล่นแชร์นั่นเอง มาคราวนี้ขออัพเลเวลกันอีกสักหน่อย ด้วยการมาเรียนรู้เรื่องของ "สหกรณ์ออมทรัพย์"ขั้นกว่าของระดับการออมที่ไม่ใช่ออมเงินเพียงลำพังอีกต่อไป เราต้องหาแนวร่วมโดยเฉพาะเจ้านายและเพื่อนร่วมงานในบริษัท จัดการออมทรัพย์ให้เป็นระบบระเบียบ และเป็นรูปแบบมากยิ่งขึ้น
สหกรณ์ออมทรัพย์ คือ การจัดตั้งสหกรณ์เล็กๆ ในบริษัทของเรา เริ่มต้นที่ 15 คนขึ้นไป โดยมีประธานดูแลสหกรณ์หนึ่งคน จะเป็นเจ้านาย หัวหน้า หรือพนักงานทั่วไปที่ตั้งใจจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหกรณ์ก็ได้ แล้วแต่คนในสหกรณ์จะเลือก และที่สำคัญสมาชิกทุกคนจะต้องมีรายได้ประจำ เพราะการออมทรัพย์ในรูปแบบสหกรณ์ จะให้ง่ายมากยิ่งขึ้นก็ใช้ระบบการหักเงินออมจากเงินเดือนเลย จะถือหุ้นมากน้อยตามความสมัครใจแต่ต้องไม่น้อยกว่าอัตราที่สหกรณ์กำหนดไว้ และให้สมาชิกชำระค่าหุ้นเป็นประจำทุกเดือน โดยสหกรณ์จะจ่ายเงินปันผลเป็นค่าตอบแทน เหมือนกับดอกเบี้ยปีละครั้ง
เงินปันผลนี้ไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยให้รัฐ และเมื่อสมาชิกลาออกจากสหกรณ์ก็สามารถถอนเงินค่าหุ้นคืนได้ ส่วนการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนั้น ทางสหกรณ์จะเป็นผู้กำหนดขึ้นมาเองแต่ต้องไม่เกินร้อยละ 19 ซึ่งเท่ากับว่ามีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่าธนาคาร และทุกๆ อย่างจะมีขั้นตอนการดำเนินการไปตามกฎหมาย
นอกจากนี้ยังมีแบบ ฝากประจำระยะยาว ได้อีกด้วย มีให้เลือกตั้งแต่ 15-60 เดือน รูปแบบคล้ายกับการฝากเงินประจำของธนาคาร แต่ว่าจะได้ดอกเบี้ยมากกว่านั่นเอง
หรืออีกหนึ่งรูปแบบเพิ่มเงินยิ่งขึ้นก็คือ การออมเงินในรูปแบบ ตั๋วสัญญาใช้เงิน ทั้ง แบบเผื่อเรียก (12 เดือน) แบบระยะยาว 15-60 เดือน แบบตั๋วสัญญาใช้เงิน (อัตราพิเศษ) วงเงิน 5 แสนบาทขึ้นไป ระยะเวลา 36 เดือน และ ตั๋วสัญญาใช้เงิน (อัตราพิเศษ) 1 ล้านบาทขึ้นไป ระยะเวลา 9 เดือน ก็มีให้เลือกว่าสหกรณ์ของเราจะเหมาะกับการลงทุนแบบไหน ซึ่งขึ้นอยู่กับการออมเงินของสมาชิกในสหกรณ์ทุกคน ออมมาก ออมน้อย จำนวนสมาชิกในสหกรณ์มากหรือน้อย โดยสมาชิกทุกคนย่อมได้รับการปันผลคืนให้กับสมาชิกทั้งหมดทุกคน ตามสัดส่วนจำนวนเงินของสมาชิกที่ทำธุรกิจกับสหกรณ์
แต่ช้าก่อน หากไม่ต้องการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ ไม่อยากข้องเกี่ยวกับเงินของคนอื่น สามารถเก็บออมอีกหนึ่งรูปแบบได้ด้วยตัวเอง เพื่ออนาคตและเพื่อตอนเกษียณอายุ ให้มีรายได้เพิ่มพูน หรือมีรายได้สำหรับรายจ่าย ใช้รายเดือนอย่างสะดวกสบาย นั่นก็คือ การซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินหรือฝากประจำกับ ชสอ. นั่นเอง สามารถซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินได้ฉบับละ 1 หมื่นบาทขึ้นไป หรือมีข้อกำหนดอีกสักนิดว่า ทาง ชสอ.จะจ่ายดอกเบี้ยเป็นรายเดือนให้รายบุคคลก็ต่อเมื่อ ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือน และมีจำนวนยอดเงินสะสม 100,000 บาทขึ้นไป การซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินสามารถโอนเงินเข้าบัญชี "ชุมนุมสหกรณ์การออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด" ได้ทั้ง 6 ธนาคารคือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารทหารไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
